#รีวิวJittaWealth
สร้าง Passive ไว้เป็นมรดกให้ลูก  ให้เงินทำงานผ่าน Jitta Wealth   

ไม่มีคำว่าสายเกินไป สำหรับการเรียนรู้ วลีอมตะนี้ใช้ได้จริงกับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกอาชีพ ​โดยเฉพาะการที่ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับคนที่เรารักเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งเพื่ออนาคตที่มั่นคงด้วยแล้ว ​วันเวลาไม่ใช่อุปสรรค ดังเช่นคุณศิริพร วีรธีรางกูร  ข้าราชการพยาบาลวัย 59 ปี ผู้ยึดมั่นในการ DCA ปั้นพอร์ตลงทุนให้ลูก จนพอร์ต Thematic Optimize ที่เธอสะสมเงินออมไว้ให้ลูกสร้างผลตอบแทน (MWR) +49.06% (17 ธ.ค. 2564 – 6 มิ.ย. 2567)

นับจากวันนี้เหลือเวลาอีกเพียงปีเดียวคุณศิริพรก็จะเข้าสู่วัยเกษียณเต็มตัว เธอเตรียมนับถอยหลังเข้าสู่วัยเกษียณตั้งแต่อายุ 50 ปี ด้วยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนและการวางแผนการเงิน จนเริ่มต้นการลงทุนในกองทุนรวม จัดพอร์ตกองทุนเองโดยมีนักวางแผนการเงินมาช่วยดูแลให้  

คุณพยาบาลในวัย 50 ปี ไม่ได้รู้สึกทดท้อกับการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพตัวเอง  ทั้งจากโลกออนไลน์อย่าง Google  และจากเพจต่างๆ อดหลับอดนอนเสพข้อมูลการลงทุนแทบทุกคืน นอกจากเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้วยังพาตัวเองไปฟังสัมมนาอยู่บ่อยครั้ง ​จนค้นพบว่าการลงทุนในกองทุนน่าจะเหมาะกับตัวเองที่สุด เพราะไม่ถนัดการเล่นหุ้นรายตัว หรือจับจังหวะลงทุนที่ดูแล้วเป็นเรื่องยากเกินตัว  เธอได้รู้จักนักวางแผนการเงินอิสระที่เข้ามาช่วยจัดพอร์ตให้  ทั้งกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี และลงทุนระยะยาวเพื่อสร้าง Passive Income 

เป้าการลงทุนในเวลานั้นคือเพื่อการศึกษาลูก ​เพื่อเกษียณ และเพื่อต่อยอดให้เป็นมรดก เธอใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA มาตลอดช่วง 6-7 ปี ตั้งแต่แรกเริ่มลงทุน แม้วันนี้พอร์ตกองทุนรวมเหล่านั้นจะยังติดลบเล็กน้อย แต่เธอก็เชื่อว่าผลของการ DCA จะทำให้พอร์ตกลับมาเขียวอีกไม่นานนี้ 

กว่าจะมาลงทุนกับ Jitta Wealth 

การศึกษาหาความรู้ด้านการลงทุนของคุณศิริพร พาให้เธอมารู้จัก Jitta ผ่านการฟังคลิป Jitta101 ของคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ช่วงแรกเธอไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะไม่ถนัดการเล่นหุ้นรายตัว​  ​จนกระทั่งเริ่มมี Jiita Wealth ที่ให้บริการกองทุนส่วนบุคคล เธอจึงเริ่มเปิดพอร์ตลงทุนในปี​ 64 โดยมีเป้าหมายในการสร้าง Passive ไว้เป็นมรดกให้ลูก ด้วยการใช้เงินทำงานผ่าน Jitta Wealth   

คุณศิริพร เล่าถึงความประทับใจใน Jitta Wealth ว่า เพราะ Jitta Wealth ใช้ AI ในการจัดการลงทุน เป็นปัจจัยแรกที่เธอเลือก เพราะ AI ไม่มี Bias ในการลงทุน และเธอเองก็ไม่ต้องคอยมากังวลเรื่องการลงทุน หรือเสียเวลาในการติดตามข่าวสารตลอดเวลา​​ โดยเฉพาะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดีๆ ที่กระจายในตลาดทั่วโลกที่ข่าวสารต่างๆ มักเข้ามากระทบการลงทุนอยู่เสมอ  อีกทั้งมีการพัฒนาระบบอยู่ตลอดเวลา และทีมงานมีการอัพเดทข้อมูลต่างๆ ให้ได้เท่าทันเหตุการณ์และ ที่สำคัญก็คือค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก 

คุณศิริพรถือฤกษ์ลงทุนเมื่อลูกชายอายุ 16 ปี เปิดพอร์ต Thematic Optimize แรก เพราะเชื่อในธีมการลงทุนที่จะเติบโตไปกับตลาดโลก โดยไม่ได้หวั่นเกรงถึงความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น เพราะมีการศึกษาเรื่องการลงทุนมาอย่างดี ทำให้เข้าใจถึงวัฏจักรของการลงทุน และตระหนักว่าเป็นความเสี่ยงที่รับได้เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่จะเก็บไว้ให้ลูก  เธอยังเชื่อมั่นในนโยบายของ Jitta Wealth อีกด้วย ดังนั้นในระยะแรกที่ลงทุนก็เจอกับการแพร่ระบาดของโควิด19 หุ้นตกทั่วโลก ผลตอบแทนติดลบตามระเบียบ  แต่ด้วยความรู้และความตั้งใจที่จะลงทุนระยะยาวให้มากกว่า 10 ปี เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ลูก ทำให้เธอเดินหน้า DCA อย่างต่อเนื่อง และในที่สุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง พอร์ตของเธอก็เริ่มบวกขึ้น​เรื่อยๆ จนตอนนี้มากกว่า 50% ไปแล้ว

“ลงทุนปุ๊บก็เจอโควิด19 พอร์ตก็ติดลบ เราเข้ามาดูในคอมมูนิตี้ก็มีการตัดพ้อของนักลงทุนหลายราย แต่เราเชื่อมั่นในนโยบายลงทุนและแนวคิดที่คุณเผ่าวางรากฐานไว้ จึง DCA ต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นคือเพื่อนๆ ในคอมมูนิตี้หลายท่านที่ผลตอบแทนติดลบ เพราะไม่มีการ DCA ยิ่งบางคนตอนติดลบก็ยิ่งไม่ลงเลย​ แม้จะเป็นสิ่งที่ทฤษฎีว่าไว้ แต่การ DCA  จริงๆ แล้วเราก็เห็นผลลัพธ์ที่ทำให้พอร์ตเราพลิกจากลบเป็นบวกได้เอง ดังนั้นมันไม่ใช่แค่ทฤษฎี”

เมื่อเทียบกับการลงทุนที่เธอเคยลงทุนมา เวลานี้คุณศิริพรยกให้พอร์ต Thematic Optimize ด้วยผลงานที่ดีที่สุด และก่อนหน้านี้เธอก็ได้เปิด Global ETF อีกพอร์ต และกำลังเตรียมที่จะเปิดพอร์ต Jitta Ranking หุ้นจีนหรือฮ่องกงอีกพอร์ต

DCA : กุญแจสู่ประตูการลงทุนที่ค้นพบได้ด้วยตัวเอง

วินัยในการ DCA อย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกเริ่มลงทุน ไม่ใช่แค่หลักการในตำรา แต่คือกุญแจสำคัญที่ทำให้พอร์ตเติบโตที่คุณศิริพรพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง จากการได้เห็นพอร์ตที่เคยติดลบพลิกกลับมาเป็นบวกได้จากการ  DCA   นั่นเอง และทุกครั้งที่เปิดดูพอร์ตแล้วเห็นพอร์ตบวกก็ชื่นใจ เธอมักจะส่งให้ลูกได้ดูทุกครั้งที่ได้เห็น และนี่ก็เป็นหนึ่งในเทคนิคสอนลูกให้ลงทุนของเธอเอง

เพราะสำหรับคุณศิริพร การเตรียมเงินไว้เพื่อลูก มิใช่เพียงเก็บเงินแล้วส่งต่อเท่านั้น ทุกครั้งที่เธอศึกษาเรื่องการลงทุน เธอมักจะแบ่งปันความรู้ให้กับลูก เพื่อสร้างความตระหนักและรับรู้ถึงความสำคัญในการบริหารเงินลงทุน ซึ่งลูกก็สนใจและเรียนรู้การวางแผนการเงินไปพร้อมกัน ด้วยความที่ลูกชายกำลังเรียนวิศวะฯ คอมพิวเตอร์ เรื่องตัวเลขจึงถือว่าถนัดไม่น้อย เมื่อได้เรียนรู้ไปพร้อมกับแม่ทำให้เขารู้จักเรื่องของอัตราดอกเบี้ยทบต้น กฎของตัวเลข 72  และเมื่อเขาได้ลองคำนวนด้วยสูตรทางการเงิน จากเงินลงทุนเริ่มต้นและการ DCA อย่างต่อเนื่องก็ได้ค้นพบว่าเงินลงทุนจะมีมูลค่ามหาศาลอย่างไรในอนาคต คุณศิริพรจึงตั้งใจว่าจะ DCA ต่อไปจนกว่าลูกทำงานและรับไม้ต่อไปดูแลพอร์ตเอง  

“เราอยากให้เขารับทราบทุกอย่างว่าการลงทุนต้องอะไรอย่างไร แล้วเขาก็เป็นคนที่วางแผนได้ดี ​และก็ใช้เงินอย่างประหยัด​ ชอบเก็บออม​ ดังนั้นพอร์ตนี้จะสร้าง Passive ให้เขาได้ในอนาคต”

หัวใจของความสำเร็จในการลงทุน

คุณศิริพรมองว่า หัวใจของความสำเร็จในการลงทุนประกอบด้วยการความรู้ก่อนเป็นสำคัญ เมื่อรู้แล้วจะสร้างความเชื่อมั่น  ซึ่งจะเป็นรากฐานที่ดีที่จะต่อยอดไป​ได้อย่างไม่ต้องกังวล ตามมาด้วยความสม่ำเสมอในการลงทุน และความหนักแน่น  เข้าใจวัฏจักรการลงทุนแล้วนิ่งให้พอ​  หากเป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ แต่สินทรัพย์ที่เราถืออยู่ยังดี ในอนาคตก็ต้องกลับมาได้ Mindset ที่ดีเหล่านี้ช่วยให้เธอข้ามผ่านช่วงที่พอร์ตติดลบมาได้ 

*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com

**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน