คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง
หนุ่มโลจิสติกส์ที่พบเคล็ดลับปั้นพอร์ตโตด้วยลงทุนช่วงวิกฤติ
“Jitta Wealth เป็นเครื่องมือช่วยให้เงินลงทุนเติบโต โดยเฉพาะช่วงวิกฤติที่เร่งให้พอร์ตได้โตได้แบบก้าวกระโดด Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ผลตอบแทน +34.73%”
#รีวิวJittaWealth
ลงทุนช่วงวิกฤติกับ Jitta Wealth เร่งพอร์ตโตแรง
คุณคงเคยได้ยินว่า ‘การลงทุนยิ่งเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบ’ แต่การค้นพบเส้นทางลงทุนที่ ‘ใช่’ สำหรับนักลงทุนแต่ละคน อาจจะใช้เวลามากน้อยแตกต่างกันไป บางคนอาจใช้เวลาค่อนชีวิตในการค้นหา แต่กับบางคนที่เริ่มลงทุนได้เร็ว และค้นพบการลงทุนที่ใช่ได้ไวด้วยแล้ว พอร์ตจะไปไกลได้แค่ไหน ลองมาดูที่พอร์ตของคุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง เจ้าหน้าที่โลจิสติกส์ดูแลคลังสินค้าในธุรกิจโลจิสติกส์แห่งหนึ่งที่เริ่มลงทุนตั้งแต่ยังเรียนไม่จบลองผิดลองถูกไม่นาน
คุณพิพัฒน์ถือเป็นลูกค้าคนแรกๆ ของ Jitta Wealth ตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว มาถึงปัจจุบัน มีพอร์ตรวมแล้ว 7 พอร์ต ทุกพอร์ตมีกำไรที่ดี แต่เนื่องจากมีการโยกพอร์ตเมื่อ 3 ปีก่อน ทำให้ ภาพพอร์ตที่แสดงไม่ใช่มูลค่าเริ่มต้นที่แท้จริง
ปัจจุบันพอร์ตลงทุนที่มีอยู่กับ Jitta Wealth เติบโตสวยงาม เม็ดเงินรวมแล้วเฉลี่ยทุกพอร์ตเติบโตมากกว่า 40% แล้ว หลักๆ มาจาก Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ +35.74% Jitta Ranking หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ +35.21% Thematic Optimize +43.11%
เส้นทางการลงทุนของคุณพิพัฒน์เริ่มตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา เมื่อเพื่อนมาชวนให้ลงทุนในหุ้นไทยรายตัว เขาจึงเปิดพอร์ตด้วยเงินลงทุนหลักหมื่นบาทในช่วงแรก เพื่อเป็นการศึกษาและเรียนรู้โลกของการลงทุน และนั่นก็เป็นที่มาที่ทำให้เขาได้รู้จักกับ Jitta.com ที่เขาได้ใช้เพื่อดูกราฟหุ้นย้อนหลังและงบการเงินได้ แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เมื่อทดลองลงทุนหุ้นรายตัวไปสักพัก เขากลับพบว่าตัวเองสนใจการลงทุนในกองทุนมากกว่า เพราะการลงทุนในหุ้นไทยค่อนข้างสวิง และต้องใช้พละกำลังในการติดตามข้อมูลและศึกษารายละเอียดอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในเวลานั้นเขาเริ่มต้นการเป็นพนักงานประจำแล้ว
คุณพิพัฒน์เบนเข็มการลงทุนของเขามาให้ความสนใจเรื่องการลงทุนในกองทุน รวมถึงศึกษาหลักคิดในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งขณะนั้นเอง Jitta ก็เริ่มเปิดตัว Jitta Wealth ประกอบเมื่อกับเขาได้เงินก้อนนึงมาจากครอบครัว จึงมาเปิดพอร์ตกับ Jitta Wealth ทีเดียว 3 พอร์ตเลยได้แก่ Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ Jitta Ranking หุ้นไทย และ Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม ตั้งแต่ 6 ปีก่อน ยุคที่คุณเผ่า ตราวุทธ์ เหลืองสมบูรณ์ ซีอีโอ ยังโทรหาลูกค้าด้วยตัวเอง
เหตุผลที่เลือกใน 3 พอร์ตนี้ เพราะเขาเชื่อมั่นในประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่ถูกยกเป็น Case Study เสมอ ส่วนหุ้นไทยในเวลานั้น เขามองว่าไม่น่าจะผันผวนมากนัก แม้โอกาสโตกระโดดจะต่ำ เเต่ความเสี่ยงในการขาดทุนหนักก็ไม่น่าจะสูงนัก ส่วนเวียดนามที่เลือกเพราะเคาดหวังการเติบโตกระโดดจากการเลื่อนชั้นเป็น Emerging market เหมาะที่จะเป็นกองหน้าให้พอร์ต
ซึ่งก็เป็นอย่างที่คาด Jitta Ranking หุ้นเวียดนามของเขาเคยทำผลตอบแทนพุ่งไปเท่าตัว เขาเคยเห็นพอร์ตเขาขึ้นไปแตะที่ 6 ล้านบาท จากต้นทุนตอนเปิดพอร์ตที่ 3 ล้านบาท ยิ่งทำให้เขามั่นใจในสิ่งที่เลือก แม้ว่าเวลานี้หุ้นเวียดนามจะปรับตัวลดลง แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นที่จะลงทุนระยะยาว
“แม้ว่าหุ้นเวียดนามลง ผมก็เฉยๆ ถ้าในระยะยาวเราเชื่อว่ามันยังไปได้ก็ถือมันต่อไป แม้ตอนหุ้นขึ้นไปมากๆ ผมก็ไม่เคยขายออกมาเลย เพราะตัวผมก็ทำงานประจำด้วย ก็อยากสะสมมูลค่าไประยะยาวจนกว่าจะทำงานไม่ไหว หรือจนกว่าจะเกษียณ”
ประสบการณ์ลงทุนตลอด 8 ปีที่ผ่านมา คุณพิพัฒน์เคยเห็นพอร์ตติดลบมากที่สุดคือช่วงโควิด แต่ด้วยความที่ฟังข่าว และศึกษาสถิติหุ้นในแต่ละวิกฤติมามาก ทำให้เขาไม่ได้ตื่นกลัวกับพอร์ตที่ร่วงลงไปในช่วงนั้นมากนัก เพราะเห็นมาแล้วว่า ไม่ว่าจะ วิกฤติต้มยำกุ้งหรือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ สุดท้ายตลาดหุ้นจะติดลบอย่างไรก็ต้องฟื้นกลับขึ้นมาได้ วิกฤติโควิดก็ต้องฟื้นมาได้เช่นกัน
และเมื่อลงทุนมาได้สักพักใหญ่ คุณพิพัฒน์ได้ศึกษาหาความรู้ในโลกลงทุนมากขึ้น จนสนใจกลยุทธ์การลงทุนแบบปู่ Warren Buffett จากวลีที่ว่า “จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว และกลัวเมื่อคนอื่นกล้า” ทำให้คุณพิพัฒน์เริ่มสังเกตุว่า หากช่วงไหนที่หุ้นตกหรือเกิดวิกฤติมากๆ การลงทุนจะมี ‘reward’ ค่อนข้างมากกว่าปกติ เขาจึงค่อยๆ ลองลงทุนด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว มองหาตลาดที่เกิดวิกฤติจากโควิด19 จนราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามาก และนั่นก็ทำให้เขาได้พบเพชรเม็ดงามอย่าง Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ทำให้เขาตัดสินใจเปิดพอร์ตในปลายปี 2565
หากจำกันได้ในปี 2566 ก็เกิดปรากฏการณ์สำคัญอย่างหุ้น Magnificent 7 ที่เข้ามาพลิกฟื้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่กำลังถูกกดดันด้วยคำว่า ‘เศรษฐกิจถดถอย’ และนั่นก็ดันให้พอร์ต Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ของเขาเด้งขึ้นเร็วและแรงหลังวิกฤติจริงๆ ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
เขาจึงเดินหน้าการทดลองต่อ ด้วยการจับจังหวะช่วงสงครามรัสเซียยูเครน ที่เขาเชื่อว่าหลังโควิดโอกาสที่หุ้น Growth จะพุ่งไปได้มีโอกาสค่อนข้างสูง เขาจึงตัดสินใจเปิดพอร์ต Thematic Optimize แล้วก็เป็นเช่นนั้น ผ่านไปไม่กี่เดือนพอร์ตของดีดขึ้นมาแรงถึง +35%
“ผมไม่ใช่สาย DCA แต่จะเก็บเงินก้อนไว้รอจับจังหวะ ผมรู้สึกโอเคกับการจับจังหวะ เพราะเหมือนเรารอวิกฤติเพื่อซื้อของถูก พอเจอ วิกฤติ หรือเมื่อเห็นข่าวร้ายๆ ผมจะเริ่มมองหาหุ้นเพื่อลงทุน ฟังข่าวแล้วคิดว่าช่วงนี้เหมาะไหม และอนาคตกลุ่มนี้จะดีไหม เราจะหาจังหวะ Drawdown มากๆ ค่อยลง อย่าง Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ช่วงนั้นเราดูกราฟเห็นว่าหุ้นเทคฯ ลงเยอะ ก็เลยเปิดพอร์ต และพอวิกฤติพ้นไป ข่าวเลวร้ายเริ่มซาไม่ถึงปี หุ้นก็เด้งเร็วและแรง”
และเมื่อไม่นานมานี้คุณพิพัฒน์ก็ได้เปิดพอร์ต Global ETF เพิ่มขึ้นมาอีกพอร์ต โดยไม่ได้คาดหวังเรื่องของการเติบโตหวือหวาเหมือนเช่นพอร์ตอื่นๆ แต่เขาต้องการความมั่นคงสำหรับอนาคตในระยะยาว รองรับจังหวะชีวิตที่อาจจะไม่พร้อมกับความผันผวน
ปัจจุบันคุณพิพัฒน์มีพอร์ตลงทุนกับ Jitta Wealth แล้ว 7 พอร์ต ทุกพอร์ตเติบโตสวยงาม เมื่อถามถึงพอร์ตลูกรัก เขายกให้ Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ เพราะมีหุ้นระดับโลกหลายตัว เศรษฐกิจน่าจะไปได้อีกไกล และลึกๆ แล้วเขายังเชื่อว่า Jitta Wealth มีความเชี่ยวชาญในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วย
เช่นกันกับที่เขาเลือกลงทุนกับ Jitta Wealth เพราะเชื่อว่า Jitta Wealth มีความชำนาญในการคัดเลือกหุ้นด้วยอัลกอริทึมที่มี ดังนั้นหากทียบกับการลงทุนด้วยตัวเองที่เขาต้องแบ่งเวลาจากการทำงานประจำไปโฟกัสการลงทุนด้วยแล้ว เขาเลือกที่จะใช้เวลาที่มีไปตั้งใจทำงานในวิชาและเนื้องานที่ถนัด แล้วเรื่องลงทุนให้ Jitta Wealth ดูแลน่าจะเป็นแนวทางที่ดีกว่า
“ Jitta Wealth ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ดีในการช่วยให้เงินลงทุนเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงวิกฤติที่เร่งให้พอร์ตได้โตได้แบบก้าวกระโดดและยังเป็นเครื่องมือที่ดีในการสร้างความมั่งคั่งและการเติบโตที่ดีได้ในระยะยาว”
*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com
**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คุณชลิตา ฤกษ์อำนวยโชค
คุณชลิตา ฤกษ์อำนวยโชค Portfolio Analyst ผู้มั่นใจใน ETF ที่ Jitta Wealth เลือกให้ และเดินหน้า DCA กับ Thematic DIY ผลตอบแทน +13.35%
คุณชลิตา ฤกษ์อำนวยโชค
Portfolio Analyst
คุณศิริพร วีรธีรางกูร
คุณศิริพร วีรธีรางกูร ข้าราชการพยาบาลผู้ยึดมั่นในการ DCA ปั้นพอร์ตลงทุนให้ลูก ด้วย Thematic Optimize +49.06%
คุณศิริพร วีรธีรางกูร
ข้าราชการพยาบาลผู้ยึดมั่น DCA เพื่อสร้าง Passive เป็นมรดกให้ลูก
คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว
คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว อดีต Network engineer ผู้มุ่งมั่นให้เงินทำงานด้วยการ DCA กับ Global ETF ผลตอบแทนรวม +44.45%
คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว
อดีต Network engineer ผู้มุ่งมั่นให้เงินทำงานด้วยการ DCA
คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง
คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง หนุ่มโลจิสติกส์ที่เน้นลงทุนช่วงวิกฤติ กับ Jitta Ranking หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ ผลตอบแทนรวม +35.21%
คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง
หนุ่มโลจิสติกส์ที่เน้นลงทุนช่วงวิกฤต
คุณบุญตา บุตรโพธิ์
คุณบุญตา บุตรโพธิ์ ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ที่คอย DCA ใน Jitta Ranking หุ้นไทยจนผลตอบแทน +30.74%
คุณบุญตา บุตรโพธิ์
เจ้าของกิจการที่มุ่งมั่นเติมพอร์ตให้ Jitta Ranking หุ้นไทย
คุณชนะภัย จันทร์ดำ
คุณชนะภัย จันทร์ดำ พนักงานหน่วยบริการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ลงทุนง่ายๆ ผ่าน Thematic Optimize ผลตอบแทน +24.20%
คุณชนะภัย จันทร์ดำ
พนักงานหน่วยบริการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง