ณัฐพร เอมอำไพวงศ์

Analytical Operations Leader

เรื่องราวของ ‘แนน-ณัฐพร เอมอำไพวงศ์’ อาจจะตรงกับใครหลายคน แนนเกิดและโตที่จังหวัดระยอง ด้วยความเป็นลูกคนเดียว
เธอจึงตัดสินใจว่าจะเลือกเดินทางชีวิตที่ได้กลับมาอยู่ดูแลครอบครัว
เธอเลือกเรียนปริญญาตรีในภาควิชาวิทยาศาสตร์เคมีที่มหาวิทยาลัยมหิดล
และปริญญาโทในวิทยาลัยวิชาปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อวางแผนว่าจะกลับมาทำงานวิจัยในโรงงานที่บ้านเกิด จนวันนั้นถึงวันนี้ก็ทำงานในบริษัทเดิมมากว่า 14 ปีแล้ว ความฝันของเธอก็เหมือนกับใครหลายคน คือวางแผนสร้างครอบครัว ซื้อบ้าน ซื้อรถ ท่องเที่ยว หรือชอปปิงออนไลน์บ้างเหมือนคนอื่นๆ

“เงินมันอาจจะไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต แต่ถ้าถามว่ามันช่วยให้เรามีชีวิตที่มันสบายขึ้นไหมหรือว่ามันช่วยอำนวยความสะดวกขึ้นไหม มันช่วยได้นะ”
พอวางแผนเรื่องการเงินในอนาคต เธอจึงมองหาการลงทุน มองหาเครื่องมือที่ตอบโจทย์ความเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ค่อยมีเวลา เพื่อให้เงินได้ทำงานและงอกเงยสำหรับอนาคต เพื่อสร้าง Passive Income และ ‘เกษียณ’ ได้เร็วยิ่งขึ้น และเพื่อที่จะได้ ‘มีเวลา’ ในชีวิตมากขึ้น สร้างความอิสระที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนใฝ่ฝันอย่างแท้จริงผ่านการลงทุนกับ Jitta Wealth

“เวลาทำงานก็บอกตัวเองเสมอว่า ‘ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้’
แต่ว่าพอมาเจอเรื่องการลงทุน เรากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางของเรา
จนเกิดคำถามว่า เราจะทำยังไง ซึ่งคำตอบที่ได้คือ ต้องหาตัวช่วย”

ครอบครัวปลูกฝังเรื่องการเก็บออมตั้งแต่เด็ก

ตั้งแต่เด็ก คุณพ่อคุณแม่จะสอนให้เก็บเงินอยู่แล้ว เสาร์-อาทิตย์ก็จะไปฝากธนาคาร เด็กๆ เพื่อนยังแซวว่าเป็นคนขี้งกหรือเปล่าเลย
คือมันเป็นนิสัยที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก ช่วงแรกๆ ก็ยอมรับนะว่ามันก็ลำบากเหมือนกันในการจะแบ่งสัดส่วนในการเก็บเงิน
เพราะว่ามันก็มีเงินที่เราอยากจะให้พ่อแม่ หรือใช้ชอปปิง แต่ยังไงก็ยังมีความคิดว่าจะต้องเก็บเงินอยู่ตลอด เพราะกลัวความเสี่ยง
และเราเป็นคนที่จะรู้สึกดี ถ้ายังมีเงินที่มันเป็นส่วนสำรองอยู่ ไม่ได้ทำให้ชีวิตของตัวเราอยู่บนความเสี่ยงเกินไป

เริ่มต้นลงทุนตามแบบ ‘มนุษย์เงินเดือน’

เรื่องการลงทุนเราก็ศึกษามาเรื่อยๆ ตั้งแต่เริ่มทำงาน ก็หาหนังสือมาอ่าน
เพราะว่าสมัยนั้นโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ก็ยังไม่ได้มากมายเหมือนตอนนี้ ดังนั้น
วิธีที่ศึกษาเรื่องการลงทุนก็ต้องซื้อหนังสือมาอ่าน และพยายามศึกษาว่าจะทำยังไงให้เงินงอกเงย
ก็เลยจะมาดูว่าเก็บเงินด้วยวิธีไหนที่มันจะดีที่สุด ในตอนแรกเริ่มศึกษาคนเดียวก่อน พอมีแฟนก็ได้ศึกษากับเขาด้วย
เริ่มคุยวางแผนอนาคตกันเรื่องแต่งงานหรือเรื่องการเก็บเงินซื้อบ้าน ว่าจะแบ่งสัดส่วนการเงินอย่างไร
เพราะมันต้องวางแผนและมีจุดเริ่มต้นที่แน่นอน ไม่งั้นก็เหมือนปล่อยเวลาทิ้งไว้
ถ้าเราได้เริ่มต้นลงทุนเร็วก็คิดว่าผลตอบแทนมันจะงอกเงยขึ้นได้มากกว่าเดิม
และพอเงินเริ่มมากขึ้นเราก็สามารถบริหารจัดการการลงทุนได้ดีขึ้น บริหารความเสี่ยงได้มากขึ้น

ซึ่งก็ลองลงทุนมาเรื่อยๆ เพราะตอนที่เราทำงาน เงินเดือนในช่วงแรกๆ ยังไม่ได้เยอะมาก เป็นเงินที่ใช้จ่าย เงินฉุกเฉิน เอาไปฝากประจำ
ซื้อสลากออมสิน ศึกษาไปมาก็เลยมองเรื่องการลงทุนในกองทุนที่เสี่ยงต่ำก่อน เช่น LTF RMF
ในสมัยนั้นแบบที่มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ลงทุนกัน

เลือกลงทุนเพื่อลูก ด้วยการใช้เทคโนโลยี

เราเริ่มรู้จัก Jitta Wealth จากแฟนนี่แหละ คือแฟนก็ศึกษาการลงทุนใน Jitta Wealth อยู่แล้ว
พอเราฟังแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจมาก แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไร ตัดมาอีกทีคือมีลูก 1 คนแล้ว ไปเห็น Jitta Wealth อีกครั้งบนเพจ Little Monster ที่คุยเรื่องการลงทุนกับ Jitta Wealth เพื่อลูก

เราก็เริ่มมองในระยะยาวว่าลูกก็โตขึ้นทุกวันซึ่งกว่าจะโต เศรษฐกิจในตอนนั้นก็คงมีเปลี่ยนไป อีกอย่างคือลูกก็ยังเล็ก
ตัวเราเองยังรับความเสี่ยงได้และยังทำงานไหว ก็เลยลองลงทุนใน Jitta Wealth ดู

นอกจากลงทุนเพื่อลูกแล้ว เราอยากลองดูว่าการลงทุนเองกับการใช้ AI แบบไหนมันจะโอเคกว่ากัน
ในแบบที่เราไม่ต้องเหนื่อยและได้ผลตอบแทนด้วย แฟนก็ศึกษามาเป็นอย่างดีว่า Jitta Wealth มีระบบที่โอเคมาก
มนุษย์เงินเดือนจะไม่ได้มีเวลาที่จะมาตั้งใจดูการลงทุนอย่างเต็มที่ ให้คนที่เค้าเป็นมืออาชีพหรือว่าใช้ระบบ AI
ซึ่งมันก็จะตัดในส่วนของความรู้สึกออกไปมาลงทุนให้ดีกว่า

เพราะถ้าเราเป็นคนกดซื้อ-ขายเอง อาจจะมีความรู้สึกกลัวที่จะทำแบบนั้น แต่ระบบคอมพิวเตอร์มันไม่ใช่แบบนั้น
มันตัดอารมณ์อคติส่วนตัวออกไปและทำงานโดยอัตโนมัติเลย

พราะรู้ว่าการลงทุน ไม่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือน

มีช่วงหนึ่งเคยพยายามที่จะลองลงทุนหุ้นด้วยตัวเอง ลองซื้อขายเอง ซึ่งเราก็ไม่ได้มีเวลาไปหาความรู้นะ ก็ค่อนข้างเสียเวลาชีวิตเหมือนกัน
คือรู้สึกได้เลยว่ายังต้องทำงานประจำแล้วตลาดหุ้นมันก็เปิดในเวลางาน ซึ่งเราก็ไม่อยากจะหลุดโฟกัสกับงานที่ทำเหมือนกัน
ก็เลยรู้สึกว่าไม่โอเคที่จะเอาเวลาไปเล่นหุ้นหรือลงทุน

ทั้งๆ ที่ตัวเราก็ไม่ได้มีความรู้หรือความสามารถในการเล่นหุ้นจริงจัง ก็เป็นจุดที่ทำให้เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เวลาทำงานก็บอกตัวเองเสมอว่า
‘ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้’ มีแต่บอกกับตัวเองว่าจะทำยังไง แต่ว่าพอมาเจอเรื่องการลงทุน เรากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางของเรา จนเกิดคำถามว่า
‘เราจะทำยังไง’ ซึ่งคำตอบที่ได้คือ ‘ต้องหาตัวช่วย’ เพื่อที่จะมาทดแทนในส่วนนี้

จนมาเจอ Jitta Wealth ที่ตอบโจทย์มากที่สุด เราเรียนวิทยาศาสตร์มาและรู้ว่าเทคโนโลยีมันมาจากสถิติ มันคือการรวบรวมผลจากข้อมูล
ดังนั้น สถิติมันไม่เคยโกหกใคร ข้อมูลแน่นๆ ที่มีมันสามารถใช้ได้ ถึงไม่ได้บอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่มันใช้เป็นแนวทางได้
ยิ่งเทคโนโลยีสมัยนี้มันพัฒนามากขึ้นเลยเชื่อว่ามันจะพัฒนาไปมากขึ้นอีก

ลงทุนวันนี้ เพื่อสร้างอิสระและเวลาในอนาคต

จริงๆ ทุกอย่างในชีวิตมันคือการลงทุนหมดเลยนะ เพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง เช่น เวลา ความรู้ความสามารถ หรือแรงงาน
จึงต้องถามตัวเองก่อนว่าตัวเราต้องการลงทุนเพื่ออะไร

ทุกวันนี้แต่ละเดือนเราจะแบ่งสัดส่วนเงินเอาไปลงทุนเหมือนเดิม ส่วนเป้าหมายในปัจจุบันก็เริ่มคุยกันถึงเรื่องการเกษียณแล้วว่าถ้าหยุดทำงาน จะมี Passive Income ได้อย่างไร ตอนแรกก็ตั้งเป้าหมายกันไว้ว่าจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี แต่ตอนนี้ก็ตั้งเป้าใหม่ว่าอยากจะเกษียณที่อายุ 55 ปีมันจะมีโอกาสเป็นไปได้มั้ย โดยให้การลงทุนในปัจจุบันไปถึงจุดนั้นที่ตั้งเอาไว้

คือเราไม่ได้มี Passion อะไรมากมาย อาจจะอยากใช้ชีวิตสงบ ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องมีกรอบมีระเบียบ
เพราะตอนที่ทำงานประจำเป็นพนักงานออฟฟิศ มันกินเวลาเราไปแทบทั้งวันแล้ว เราอยากใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไปไหนก็ไป
และยังอยากชอปปิงอยู่

เราอยากใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านสวนหรืออาจไปอยู่กับธรรมชาติ สรุปคืออยากมีอิสระ มีเวลา
ซึ่งเราต้องคิดว่าเราต้องทำยังไงให้เราได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขและตอบโจทย์เรามากที่สุด

*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com

**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

เงินเติบโตด้วยกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth

ลงทุนอย่างสบายใจ กำไรอย่างยั่งยืน

สนใจลงทุน

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คุณชลิตา ฤกษ์อำนวยโชค

คุณชลิตา ฤกษ์อำนวยโชค Portfolio Analyst ผู้มั่นใจใน ETF ที่ Jitta Wealth เลือกให้ และเดินหน้า DCA กับ Thematic DIY ผลตอบแทน ​+13.35%

คุณศิริพร วีรธีรางกูร

คุณศิริพร วีรธีรางกูร ข้าราชการพยาบาลผู้ยึดมั่นในการ DCA ปั้นพอร์ตลงทุนให้ลูก ด้วย Thematic Optimize +49.06%

คุณศิริพร วีรธีรางกูร

ข้าราชการพยาบาลผู้ยึดมั่น DCA เพื่อสร้าง Passive เป็นมรดกให้ลูก

คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว

คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว อดีต Network engineer ผู้มุ่งมั่นให้เงินทำงานด้วยการ DCA กับ Global ETF ผลตอบแทนรวม +44.45%

คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว

อดีต Network engineer ผู้มุ่งมั่นให้เงินทำงานด้วยการ DCA 

คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง

คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง หนุ่มโลจิสติกส์ที่เน้นลงทุนช่วงวิกฤติ กับ Jitta Ranking หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ ผลตอบแทนรวม +35.21%

คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง

หนุ่มโลจิสติกส์ที่เน้นลงทุนช่วงวิกฤต

คุณบุญตา บุตรโพธิ์

คุณบุญตา บุตรโพธิ์ ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ที่คอย DCA ใน Jitta Ranking หุ้นไทยจนผลตอบแทน +30.74%

คุณบุญตา บุตรโพธิ์

เจ้าของกิจการที่มุ่งมั่นเติมพอร์ตให้ Jitta Ranking หุ้นไทย

คุณชนะภัย จันทร์ดำ

คุณชนะภัย จันทร์ดำ พนักงานหน่วยบริการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ลงทุนง่ายๆ ผ่าน Thematic Optimize ผลตอบแทน +24.20%

คุณชนะภัย จันทร์ดำ

พนักงานหน่วยบริการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ดูทั้งหมด