บทความพิเศษ

หลักการที่ทำให้มั่นใจ ทั้งการลงทุนและการใช้ชีวิต

ชาคร จันทร์สกุล

อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท

Why you Invest

ผมคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องพื้นฐาน 

ที่ทุกคนควรทำ

ถ้าไม่ลงทุนคือคุณจะเสียเงินที่อุตส่าห์หามาไปเรื่อยๆ จำนวนเงินของคุณอาจไม่ได้หายไปไหน แต่มูลค่าเงินจะน้อยไปตามกาลเวลา แต่ทีนี้จะลงทุนอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับความรู้และการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละคน ทุกวันนี้ผมเลือกลงทุนหลากหลายรูปแบบ ก่อนการลงทุน สิ่งแรกที่ต้องมีคือเงินสดสำรองเผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน แล้วหลังจากนั้นค่อยเอาไปจัดสรรปันส่วน ทั้งพันธบัตร หุ้นกู้ อสังหาริมทรัพย์ และอีกส่วนที่ต้องการลงทุนระยะยาวจริงๆ ก็ฝากไว้ให้จิตตะช่วยดูแล

Why you choose Jitta Wealth

Because Simple is wealth

ผมศรัทธาในหลักการที่คุณเผ่า (ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ – ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ jitta.com และ Jitta Wealth) อธิบายไว้ว่าหลักการลงทุนข้อแรกคือต้อง ‘ง่าย’ ซึ่งความง่ายนี้ไม่ใช่ชุ่ย แต่คือการทำความเข้าใจเรื่องนั้นๆ อย่างแท้จริง แล้วย่อยออกมาให้เข้าใจง่าย เพราะแม้แต่หลักการวินิจฉัยทางการแพทย์ก็เป็นแบบนั้น

อายุรแพทย์ บรรณาธิการหนังสือแปล และนักลงทุน ทั้ง 3 คำนี้ล้วนใช้นิยามผู้ชายที่ชื่อ ชาคร จันทร์สกุล ได้อย่างไม่เคอะเขิน

เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของชาครหมดไปกับการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางสมองและระบบประสาทในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านเพชรบุรี ไม่ว่าจะปวดศีรษะ ไมเกรน หรืออัมพาต ชาครคือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คอยวินิจฉัย ให้คำปรึกษา และบำบัดอาการเจ็บป่วยเหล่านั้นให้หมดไป ด้วยความรู้จากการหมั่นศึกษางานวิจัยใหม่ๆ อยู่เสมอ

“พอเป็นหมอแล้วต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิต ถ้าหยุดเรียนรู้แปลว่าเราทำผิดต่อคนไข้ เพราะเวลามาหาเรา เขาก็คาดหวังว่าจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด”

แต่นอกเหนือจากการอัพเดตความรู้ในสายงานของตัวเองอย่างสม่ำเสมอแล้ว ชาครยังสนุกกับการอ่านหนังสือเพิ่มเติมความรู้ด้านอื่นๆ ในยามว่าง เลยเถิดไปถึงขั้นเป็นบรรณาธิการหนังสือแปลสายวิทยาศาสตร์ระดับเบสต์เซลเลอร์อย่าง What if? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า… และอีกบทบาทที่เป็นพาร์ตสำคัญ คือการเป็นนักลงทุนที่มีเป้าหมายเพื่อคลายความกังวลในการใช้ชีวิต

แต่ไม่ว่าจะบทบาทไหน หลักการที่ชาครเชื่อมั่นว่าเหมาะสำหรับทุกการใช้ชีวิตคือ ‘ความเรียบง่าย’

ความสนใจหล่อหลอมจากครอบครัว

ผมโตมาในครอบครัวหมอ คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นหมอ เราก็เลยสนใจอยากเรียนหมอตั้งแต่สมัยมัธยม เรื่องการลงทุนก็เหมือนกัน ตอนเด็กๆ ผมกลับบ้านกับคุณพ่อ ซึ่งเขาจะแวะห้องดูหุ้นที่ห้องค้า สมัยก่อนจะเป็นสถานที่ที่คนเล่นหุ้นไปรวมตัวกัน มีกระดานขนาดใหญ่ที่รายงานว่าหุ้นตัวไหนขึ้นหุ้นตัวไหนตก ทำให้เราได้ซึมซับความรู้เกี่ยวกับการลงทุนไปด้วย ตรงไหนสงสัยก็ถามคุณพ่อ เขาก็คอยสอน คอยแนะนำ

ผมคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนควรทำ

ถ้าไม่ลงทุนคือคุณจะเสียเงินที่อุตส่าห์หามาไปเรื่อยๆ จำนวนเงินของคุณอาจไม่ได้หายไปไหน แต่มูลค่าเงินจะน้อยไปตามกาลเวลา แต่ทีนี้จะลงทุนอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับความรู้และการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละคน ทุกวันนี้ผมเลือกลงทุนหลากหลายรูปแบบ ก่อนการลงทุน สิ่งแรกที่ต้องมีคือเงินสดสำรองเผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน แล้วหลังจากนั้นค่อยเอาไปจัดสรรปันส่วน ทั้งพันธบัตร หุ้นกู้ อสังหาริมทรัพย์ และอีกส่วนที่ต้องการลงทุนระยะยาวจริงๆ ก็ฝากไว้ให้จิตตะช่วยดูแล

ก้าวข้ามอุปสรรคระหว่างทางที่ชื่อว่า

วินัยและความไม่รู้

การลงทุนมีหลายแบบก็จริง แต่อุปสรรคสำคัญในการลงทุนทุกรูปแบบคือ วินัย หลายคนเล่นหุ้นโดยตั้งเป้าหมายว่าจะเป็น VI (Value Investment) แต่พอเริ่มได้กำไรนิดหน่อยก็ขายหุ้นแล้ว ไม่ได้มีวินัยมากพอจะทำตามที่ตั้งใจไว้จริงๆ หรือบางครั้งเลือกซื้อหุ้นสักตัวเพราะมั่นใจว่าดี อ่านข้อมูลมาเยอะก่อนตัดสินใจแล้ว แต่พอลงทุนไปแล้วไม่มีแนวโน้มจะเติบโตหรือได้กำไรเร็วๆ สักทีก็เสียความมั่นใจ เอ๊ะ เราวิเคราะห์ผิดเหรอ แล้วก็ไม่อดทนจนขายหุ้นทิ้งไปเลย ทั้งที่หากทนอีกหน่อยก็ได้ผลตอบแทนที่ดีแล้ว และอุปสรรคอีกอย่างคือ ความไม่รู้ ไม่มีเวลาศึกษา ซึ่งจิตตะเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ทั้งรวมรวบข้อมูลที่นักลงทุนควรต้องรู้ ออกแบบให้เข้าใจง่าย และใช้หลักการลงทุนที่เชื่อถือได้

อย่างที่รู้กันว่าสมองของคนเราเป็นอวัยวะที่ซับซ้อนที่สุดในร่างกาย แต่ละส่วนของสมองก็มีหน้าที่พิเศษ เวลาเราเจอคนไข้ที่ดูเหมือนมีอาการหลายๆ อย่างร่วมกัน

เราต้องคิดก่อนว่าอาการที่เขาเล่ามานั้นเป็นปัญหาที่เกิดจากสาเหตุเดียวกันไหม มีที่มาจากจุดเดียวกันหรือเปล่า ถ้าคำอธิบายไหนเริ่มซับซ้อน ดูจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แปลว่าไม่ใช่แล้ว เราน่าจะไปผิดทาง

หลักการที่ Jitta Wealth เลือกใช้และทำให้ผมเชื่อคือ Quantitative Value Investing หรือ QVI พูดง่ายๆ คือการวิเคราะห์ทุกอย่างบนมาตรฐานเดียวกัน หากจะดูว่าหุ้นตัวไหนดีหรือไม่ดี เขาก็จับหุ้นทุกตัวมาให้คะแนนด้วยเกณฑ์เดียวกันเลย หุ้นตัวหนึ่งจะดีได้เพราะอะไรบ้างล่ะ เพราะฐานะการเงินมั่นคงแข็งแรง บริษัทเติบโตก้าวหน้าดี มีโอกาสทำกำไร หรือราคาหุ้นต่ำ ก็ให้คะแนนไปตามเกณฑ์นั้น แล้วก็จัดอันดับตามคะแนนเลย การลงทุนตามหลักการนี้คือเราต้องซื้อหุ้น 20-30 อันดับแรกให้หมด เพราะเราไม่รู้ว่าหุ้นตัวไหนจะเป็นตัวทำกำไรสูงสุด หุ้นบางตัวอาจไม่โดดเด่นมาก แต่โดยเฉลี่ยในระยะยาวแล้วจะให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจแน่นอน ซึ่งกฎข้อนี้ถูกพิสูจน์มาแล้วว่ามันใช้ได้ผล

เป้าหมายของผมก็คล้ายๆ กับคนส่วนใหญ่ในยุคนี้ที่อยากมีอิสรภาพทางการเงิน ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนมากเพียงพอที่จะไม่ต้องกังวลกับชีวิตประจำวัน และการมีตัวช่วยอย่าง Jitta Wealth ก็ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก

เงินเติบโตด้วยกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth

ลงทุนอย่างสบายใจ กำไรอย่างยั่งยืน

สนใจลงทุน

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คุณชลิตา ฤกษ์อำนวยโชค

คุณชลิตา ฤกษ์อำนวยโชค Portfolio Analyst ผู้มั่นใจใน ETF ที่ Jitta Wealth เลือกให้ และเดินหน้า DCA กับ Thematic DIY ผลตอบแทน ​+13.35%

คุณศิริพร วีรธีรางกูร

คุณศิริพร วีรธีรางกูร ข้าราชการพยาบาลผู้ยึดมั่นในการ DCA ปั้นพอร์ตลงทุนให้ลูก ด้วย Thematic Optimize +49.06%

คุณศิริพร วีรธีรางกูร

ข้าราชการพยาบาลผู้ยึดมั่น DCA เพื่อสร้าง Passive เป็นมรดกให้ลูก

คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว

คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว อดีต Network engineer ผู้มุ่งมั่นให้เงินทำงานด้วยการ DCA กับ Global ETF ผลตอบแทนรวม +44.45%

คุณปิยะณัฐ พึ่งฮั้ว

อดีต Network engineer ผู้มุ่งมั่นให้เงินทำงานด้วยการ DCA 

คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง

คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง หนุ่มโลจิสติกส์ที่เน้นลงทุนช่วงวิกฤติ กับ Jitta Ranking หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ ผลตอบแทนรวม +35.21%

คุณพิพัฒน์ รุ่งเรือง

หนุ่มโลจิสติกส์ที่เน้นลงทุนช่วงวิกฤต

คุณบุญตา บุตรโพธิ์

คุณบุญตา บุตรโพธิ์ ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ที่คอย DCA ใน Jitta Ranking หุ้นไทยจนผลตอบแทน +30.74%

คุณบุญตา บุตรโพธิ์

เจ้าของกิจการที่มุ่งมั่นเติมพอร์ตให้ Jitta Ranking หุ้นไทย

คุณชนะภัย จันทร์ดำ

คุณชนะภัย จันทร์ดำ พนักงานหน่วยบริการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ลงทุนง่ายๆ ผ่าน Thematic Optimize ผลตอบแทน +24.20%

คุณชนะภัย จันทร์ดำ

พนักงานหน่วยบริการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ดูทั้งหมด