#รีวิวJittaWealth
ตลาดหุ้นไทย เอาชนะง่าย แค่ DCA ก็ +30% ได้

ตลาดหุ้นไทยที่ย่ำอยู่กับที่มาเป็นเวลาหลายปี และอยู่ในโซนสีแดงมากกว่าสีเขียว จนใครหลายคนอาจจะถอดใจ และหมดความเชื่อมั่นไปแล้วว่าจะมีหนทางสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกได้อย่างไร ทั้งที่รู้ว่าหุ้นไทยดีๆ ยังมีอยู่มาก แม้ตลาดในภาพรวมอาจจะยังไม่สดใส แต่ก็ไม่รู้จะลงทุนอย่างไรให้มีกำไร แต่หากเราลงทุนด้วยหลักการลงทุนที่ถูกต้อง มีเครื่องมือที่ดีและที่สำคัญคือวินัยในการลงทุนหุ้นไทยก็สร้างกำไรให้คุณได้ พิสูจน์ได้จากพอร์ตของคุณบุญตา บุตรโพธิ์ ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว เธอเริ่มลงทุนกับ Jitta Wealth ใน Jitta Ranking หุ้นไทย และDCA มาตลอด วันนี้ผลตอบแทนที่เธอได้รับอยู่ที่ +30.75% ในขณะที่ SET Index ติดลบ -1.51% (18 พ.ย. 62 – 9 พ.ค.67)

คุณบุญตา ​อดีตพนักงานบริษัท​ที่ทิ้งรายได้ประจำที่ทำมาตลอด 15 ปี หันมาทำธุรกิจส่วนตัวได้ 7-8 ปีแล้ว เดิมทีเมื่อเก็บเงินได้ก็จะนำไปซื้อสลากออมทรัพย์ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่คุ้นเคย โดยไม่เคยรู้จักการลงทุนในหุ้น จนเริ่มมีเงินเก็บ “ล้านแรก” ก็เริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรกับเงินก้อนนี้เพราะต้องการจะหาผลตอบแทนที่ดีกว่าสลากออมสินแล้ว เธอเริ่มต้นจากเค้าไปเสิร์ชใน Google ว่า ‘มีเงินเก็บ 1 ล้านบาท ลงทุนอะไรดี’ แล้วไปเจอคลิปคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ซีอีโอ จิตตะ เวลธ์ พูดคุยกับ​และคุณพอล ภัทรพล ฟังแล้วรู้สึกสนใจ เพราะชอบหลักการของคุณเผ่า แต่ยังไม่ได้เชื่อทันที เพราะเงินก้อนแรกในชีวิตจึงต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น จนพบว่า Jitta Wealth มีนักลงทุนมารีวิวให้มากราย และสื่อต่างๆ พูดถึงมากจึงรู้สึกมั่นใจและตัดสินใจเลือกมาลงทุนกับ Jitta Wealth ราวปี 2562

“นี่ถือเป็นล้านแรกของเรา เป็นเงินเก็บก้อนแรกที่เป็นเงินสด เราก็กลัว และไม่เคยลงทุนในหุ้นมาก่อน พอปลายปี 62 ก็เริ่มเปิดพอร์ต อยากลงทุน Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ แต่ตอนนั้นเงินลงทุนขั้นต่ำเริ่มที่ 3 ล้านบาท ก็เลยมาลงที่ Jitta Ranking หุ้นไทยที่ 1 ล้านบาทก็เริ่มต้นได้”

คุณบุญตาเปิดพอร์ตลงทุนได้ไม่นานก็เกิดการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ตลาดหุ้นไทยร่วงลงรุนแรง จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องใช้มาตรการหยุดการซื้อขายเป็นการชั่วคราว (Circuit Breaker) ถึง 3 ครั้ง เพื่อเบรกความโกลาหลที่เกิดจากอารมณ์ตื่นกลัวของนักลงทุนในเวลานั้น แต่ไม่ว่าตลาดจะแดงเดือดอย่างไร พอร์ตของคุณบุญตาก็ยังคงเขียวอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจของเธอ 

ดังนั้นเมื่อเธอมีเงินได้จากธุรกิจเข้ามาจนครบขั้นต่ำก็จะเติมพอร์ตเข้ามาโดยไม่ได้กำหนดว่าต้องเติมเงินเท่ากันทุกเดือน และเพราะการ DCA บ่อยทำให้พอร์ตของเธอแทบไม่เคยติดลบ และเมื่อเห็นตลาดตก หรือพอร์ตเริ่มติดลบเธอก็จะเข้ามาเติมเงินทันที ซึ่งผลตอบแทนของ Jitta Ranking หุ้นไทย ที่เธอเคยเห็นคือ 43% 

เมื่อเห็นว่าผลตอบแทนของ Jitta Ranking หุ้นไทยผลตอบแทนดี และมีเพื่อนมาชวนให้ลงทุนหุ้นไทย เธอจึงลองเปิดพอร์ตหุ้นไทยซื้อหุ้นรายตัวด้วยตัวเองควบคู่กันไป เลือกหุ้นตามเพื่อนบ้าง และเลือกจากหุ้นที่อยู่ในพอร์ต Jitta Ranking หุ้นไทยของตัวเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อ AI ของ Jitta Wealth ขายหุ้นเหล่านั้นออกไปแล้ว คุณบุญตากลับไม่ได้ขายหุ้นเหล่านั้นออกไป ประกอบกับตลาดหุ้นไทยที่ตกลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้พอร์ตหุ้นไทยที่ลงทุนด้วยตัวเองของคุณบุญตาติดลบไปแล้ว 30% เพราะไม่กล้าที่จะขาย

“เหมือนที่คุณเผ่าบอกเลยว่าคนเรามี bias เราทำใจไม่ได้ ไม่กล้าที่จะขายออก”

คุณบุญตาเชื่อว่าในการลงทุนต้องใช้เวลา ค่อยๆ สะสมเงินลงทุนไป แล้ววันนึงพอร์ตก็จะโตเหมือน ‘สโนว์บอล’ ซึ่งการ DCA ให้ผลดีกับพอร์ตคุณบุญตา ทั้งที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ในขาลงมายาวนาน แต่พอร์ตของเธอก็ยังเขียวสดใส จนทุกวันนี้ เพื่อนๆ ที่ชวนเล่นหุ้นไทย มักจะถามเธอถึงผลงานของ Jitta Ranking หุ้นไทยที่เธอลงอยู่ ซึ่งเธอก็ตอบได้อย่างภูมิใจว่ายัง ‘รอด’ พร้อมให้เหตุผลกับเพื่อนที่เธอแนะนำว่าควรมาลงทุนกับ Jitta Wealth ว่า 

“เพราะการลงทุนเอง เราไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมือพอ และใจเราก็ไม่ได้แข็งพอด้วย พอเห็นพอร์ตที่เราลงทุนเองแล้วก็แพ้ตลาดอยู่ตลอด การให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลให้ก็น่าดีกว่า ซึ่งประสบการณ์ที่ผ่านมาเราก็เชื่อมั่นใน AI และทีมงานของ Jitta Wealth” 

ดังนั้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เธอรวบรวมความกล้าและตัดสินใจ Cut ขายหุ้นไทยที่ถืออยู่ออกมาทั้งที่ขาดทุนอยู่ รวมถึงขาย Jitta Ranking หุ้นไทยออกมาส่วนนึงเพื่อกระจายการลงทุนไปใน Jitta Ranking หุ้นฮ่องกง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา 

“เราตัดสินใจ cut หุ้นไทย ไปลงฮ่องกงดีกว่า เพราะฮ่องกงยังถูกดูแล้วยังมีโอกาสมากกว่า หากไม่ตัดสินใจ cut ดูทรงแล้วก็ไม่มีโอกาส หลังจาก cut ไปไม่นานก็เกิดสงครามในตะวันออกลางขึ้นมาอีก เรามาย้อนดู ราคาหุ้น ณ วันที่คัทไปก็ยิ่งย้ำว่าการตัดสินใจไปเปิดพอร์ตฮ่องกงตั้งแต่วันนั้นถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว เพราะตอนนี้พอร์ตฮ่องกงก็บวกมาแล้ว 8%”

นอกจากหุ้นไทยและฮ่องกงแล้ว ในปีที่ผ่านมาคุณบุญตาก็เปิด Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ อีกพอร์ต ซึ่งแผนการลงทุนของคุณบุญตา เธอตั้งใจว่าจะเปิดพอร์ตเวียดนามอีกพอร์ต เป็นพอร์ตสุดท้าย หลังจากนั้นเธอจะหมุนเวียนเติมเงินเข้าพอร์ตแทน เพื่อให้แต่ละพอร์ตของเธอเพิ่มขึ้นไปแตะหลัก 1 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนเหล่านี้เธอมีเป้าหมายที่จะเก็บไว้เพื่อใช้จ่ายยามเกษียณ

“ทุกวันเราจะเข้ามาเปิดดูพอร์ตทุกวัน จนถามตัวเองว่าเหมือนคนโรคจิตหรือเปล่า พอร์ตโตก็ยิ้ม แต่พอแดงก็รับได้ เพราะแดงไม่เยอะแค่ 6-7% เราก็เติมเงินแล้ว ไม่ได้เติมทุกเดือน ถ้าเก็บเงินครบขั้นต่ำเราก็เติมพอร์ต เพราะการที่เรา DCA บ่อยพอร์ตก็เลยไม่ติดลบมากและเมื่อตลาดขาขึ้นก็กลับมาเขียวได้ ”

ถามว่าเมื่อเห็นพอร์ตติดลบ เธอจัดการอารมณ์ตัวเองอย่างไร คุณบุญตาบอกว่า พอร์ตที่ลงทุนกับ Jitta Wealth อาจจะมีบางช่วงที่ติดลบบ้าง แต่ก็ถือว่าเล็กน้อยจนเธอรู้สึกเฉยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีคู่เทียบอย่างพอร์ตหุ้นไทยรายตัวที่เธอลงทุนเอง ติดลบหนักหนามากกว่านี้หลายเท่า ยิ่งทำให้คุณบุญตามั่นใจทุกครั้งที่มาเปิดพอร์ตของ Jitta Wealth 

และเมื่อถามหาพอร์ตลูกรัก เธอบอกว่าเธอรักทุกพอร์ตที่มีกับ Jitta Wealth เพราะเวลาตลาดลงพอร์ตก็ติดลบไม่มาก แต่เมื่อตลาดขาขึ้นก็สร้างผลตอบแทนที่ดี แต่หากเป็นตลาดที่เชื่อมั่นคงเป็นสหรัฐฯ ที่เธอมองว่าเป็นเบอร์ 1 ของโลก เทียบกับหุ้นไทยที่ไม่ไปไหนก็อาจจะทำให้รู้สึกท้อกับตลาดไทยบ้าง ดังนั้นในการเติมพอร์ตก็จะพยายามสลับเวียนกันเติมให้แต่ละพอร์ตไปแตะหลักล้านให้ได้

*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com

**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน